
พระพาย วาสิตา ทวีเกียรติบริบูรณ์ หญิงสาววัย 30 ปี เจ้าของแอคลับสายสยิวที่ใช้ชื่อแทนว่า Lonely Breeze หรือ สายลม ซึ่งมีผู้ติดตามหลักหมื่น
Lonely Breeze: “สวัสดีทุกคน วันนี้สายลมมาตามสัญญาแล้วน้า อยากให้น้องสายลมให้อะไรให้สบายใจเอ่ย?”
“ถอดเสื้อหน่อยสิ”
“วันนี้จัดเต็มไปเลยนะ!”
“น้องสายลม ขออะไรเซ็กซี่กว่านี้ได้ไหม?”
“ไม่ต้องมากมาย แค่ถอดชิ้นบนก็พอแล้ว”
“โชว์นิด ๆ หน่อย ๆ แค่นั้นเราก็ใจละลายแล้ว”
“ผมอยากได้ยินเสียงน้องสายลม... อยากให้สายลมครางชื่อผม”
“ได้สิคะ พี่ชื่ออะไรคะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงท้าทาย พลางเอนตัวเข้าหากล้องอีกเล็กน้อย สร้างบรรยากาศที่ทำให้หัวใจของอีกฝ่ายเต้นแรงขึ้นกว่าเดิม
“กร พี่ชื่อกรน้องสายลม”
“อ๊ะ อ๊ะ พี่กรเสียวมากมั้ยคะ?” มือเล็กสองข้างของเธอยังคงกอบกุมก้อนเนื้ออวบอิ่มกลางอกคลึงวนไปมา อีกฝ่ายที่เปิดกล้องก็ไม่รอช้าขยับมือหนาชักรูดแก่นกายตัวเองหน้ากล้องจนลำแท่งเอ็นชี้โด่งแข็งชัน
“อื้ออ พี่เสียว เสียวมากน้องสายลม พี่ของเข้าไปในตัวน้องสายลมได้มั้ย”
“อ๊ะ อ๊า เข้ามาเลยค่ะพี่กร กระแทกน้องสายลมแรง ๆ เลยนะคะ น้องสายลมอยากได้ของพี่กร” เสียงครางกระเส่าของร่างบางดังไม่หยุดหย่อน ราวกับเป็นการกระตุ้นอารมณ์ฝ่ายตรงข้ามให้พุ่งทะยานยิ่งขึ้นทุกวินาที
“อื้ออ พี่จะเข้าไปแล้วนะน้องสายลม อ๊า ข้างในตอดพี่แน่นมาก อ๊ะ อ๊ะ”
เงินเข้า:
ยอดโอนเข้า 2,000.00 บาท จาก XXX บัญชี A-1234 ธนาคาร ABC
พระพายไม่ได้คิดจะทำอาชีพนี้เป็นงานหลัก แต่เพราะรายได้จากงานเด็กเสิร์ฟและพนักงานประจำของที่เธอทำอยู่ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทุกอย่างมันยากขึ้นเรื่อย ๆ ค่าเช่าห้อง ค่าน้ำค่าไฟ และสารพัดค่าใช้จ่ายที่ตามมา
พ่อแม่จากเธอไปตั้งแต่ยังเป็นเด็กตัวน้อย เธอต้องเติบโตมาในบ้านของพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงที่ไม่ได้ให้ความรักหรือความอบอุ่นเท่าที่ควร
หลังจากเรียนจบมัธยมปลาย พระพายตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องเก็บเงินให้ได้มากพอเพื่อที่จะได้สานต่อความฝันในการเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย
หลังเลิกเรียนทุกวัน พระพายจะรับงานพิเศษทุกอย่างที่ทำได้ เธอไม่เคยเกี่ยงงาน ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน เพราะเธอรู้ดีว่าเงินทุกบาทที่ได้มานั้นมีค่า
สิ่งเดียวในตอนนั้นที่ทำให้เธอมีกำลังใจใช้ชีวิตในแต่ละวันที่ยากลำบากคือ “พิชญ์” หนุ่มนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจพ่วงด้วยตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัย เขาเป็นผู้ชายที่ดูมีเสน่ห์ดึงดูดให้คนเข้าหารวมทั้งพระพายเองก็หลงใหลความหล่อของเขาเข้าอย่างจัง ไม่ใช่เพราะความหล่อที่ทำให้เธอประทับใจแต่เพราะความอบอุ่น แสนดีที่อีกฝ่ายมอบให้ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวจนห้ามใจไม่อยู่
ในปีสุดท้ายก่อนจะเรียนจบ พระพายตัดสินใจสารภาพความในใจกับพิชญ์ เธอวางแผนไว้อย่างดี คิดทบทวนคำพูดในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนถึงวันที่เธอรวบรวมความกล้าและเอ่ยปากบอกกับเขาในที่สุด
“พิชญ์ เรามีเรื่องอยากจะบอก...”
พิชญ์หันมามองเธอด้วยสายตาที่สงสัยแต่ยังคงยิ้มบาง ๆ อย่างที่เขามักจะทำอยู่เสมอ
“เราจะบอกว่า... เราชอบพิชญ์นะ”
“ฮะ! เธอพูดว่าอะไรนะ?”
“เราบอกว่า เราชอบพิชญ์”
“เรา... ชอบคนสวย เร้าใจ ไม่ใช่เฉิ่มเชยแบบเธอ”
“แล้วที่ผ่านมาล่ะ... มันคืออะไร?”
“ทำไมล่ะ?คนอย่างเธอควรหัดเจียมตัวซะบ้าง อย่าคิดว่าทุกคนจะรู้สึกแบบเดียวกับที่เธอรู้สึก”
คำพูดของพิชญ์ยังคงก้องอยู่ในหัวของเธอทุกครั้งที่เธอพยายามจะลืมมัน มันไม่ใช่แค่การถูกปฏิเสธ แต่มันคือการถูกเหยียบย่ำความรู้สึกที่เธอเก็บไว้อย่างทะนุถนอม รอยยิ้มและเสียงหัวเราะเยาะของเขายังคงชัดเจนในความทรงจำ มันทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเป็นคนที่ไม่มีค่า และไม่สมควรได้รับความรักหรือความสนใจจากใคร
หลังจากเรียนจบ พระพายและพิชญ์ก็เหมือนเส้นขนานที่ไม่เคยบรรจบกันอีกเลย ต่างคนต่างแยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง พระพายเองไม่เคยพยายามที่จะติดต่อพิชญ์อีก แม้ว่าจะยังรู้สึกเจ็บจากเหตุการณ์นั้นอยู่ในใจแต่เธอก็ตัดสินใจที่จะปล่อยวางและมุ่งมั่นกับชีวิตของตัวเอง
พระพายจัดอยู่ในกลุ่มคนประเภทอินโทรเวิร์ต เธอไม่ใช่คนที่มีเพื่อนเยอะหรือชอบเข้าสังคมเป็นพิเศษ ชีวิตของเธอวนเวียนอยู่ระหว่างการทำงานหนักและกลับห้องพักตัวเองอย่างเงียบ ๆ ทุกวัน
8 ปี ผ่านไป...
เสียงปืนดัง “ปัง!” ก้องไปทั่วดาดฟ้า
พระพายซึ่งซ่อนตัวอยู่มุมหนึ่ง มองเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยความตกใจสุดขีด เธอไม่เคยเห็นการฆาตกรรมตรงหน้ามาก่อน ร่างของเธอสั่นระริกด้วยความหวาดกลัวอย่างรุนแรง และก่อนที่เธอจะทันยั้งตัวเองเสียงกรีดร้องหลุดออกมาจากปาก “กรี๊ดดด!”
พิชญ์ พิชญุตย์ เศวตกลมกุล ชายหนุ่มวัย 30 ปี เจ้าของใบหน้าหล่อคมคาย เมื่อเสียงกรีดร้องของพระพายดังก้องขึ้น พิชญ์หันขวับไปตามเสียง สายตาเฉียบคมของเขาจับจ้องไปที่มุมหนึ่งของดาดฟ้า เมื่อเห็นหญิงสาวซึ่งพยายามซ่อนตัว เขากระตุกยิ้มบาง ๆ แฝงไปด้วยความอันตรายแล้วออกคำสั่งอย่างไร้ความลังเล
“จับตัวเธอมา”
“เธอเห็นอะไรบ้าง?”
“ฉัน... ฉันไม่เห็นอะไรเลย!”
“อย่าคิดว่าโกหกแล้วจะรอดไปได้”
“พาตัวเธอมา”
พิชญ์พาพระพายมาถึงคอนโดหรูของเขา บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความเงียบสงบและความหรูหรา เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นถูกจัดไว้อย่างมีรสนิยม เขามองรอบห้องก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“ออกไปก่อน ถ้าฉันไม่เรียก ก็ไม่ต้องเข้ามา” น้ำเสียงของเขานิ่ง แต่แฝงไปด้วยอำนาจที่ไม่มีใครกล้าขัดขืน
สายตาของเขาจับจ้องอีกฝ่ายไม่ละสายตา เขาตกใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเธอบนดาดฟ้า ใบหน้าของเธอ... มันช่างละม้ายคล้ายกับใครบางคนที่เขาเคยรู้จักมาก่อน ความคล้ายคลึงนี้ทำให้เขาสับสน ว่าเธอเป็นใครกันแน่…เขาอยากรู้จักเธอมากกว่านี้
ร่างเล็กที่นั่งบนเตียงใหญ่ยังคงหายใจหอบกระเส่าออกมา ฤทธิ์ยาที่อยู่ในร่างกายไม่ได้หายไปไหนแม้ความหวาดกลัวและความตกใจจากเหตุการณ์ก่อนหน้าจะเข้ามาแทรก ร่างบางบิดเร่าไปมาราวกับพยายามความคุมความเสียวซ่านที่วิ่งพล่านในร่างกายจนเผลอครางออกมาไม่รู้ตัว
“อื้ออ อ๊ะ”
“ให้ผมช่วยมั้ย?”
“ไม่... ไม่ต้องมายุ่ง ปล่อยฉันออกไปจากที่นี่
“ลองให้ผมช่วยดูไหม?” พิชญ์เอ่ยถามอีกครั้ง เสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเย้ายวนที่ยากจะต้านทาน “ผมสัญญาว่า ถ้าคุณรู้สึกดีขึ้นแล้ว ผมจะปล่อยคุณไป”
“อื้ออ... ดีจัง”
“อยากทำมากกว่านี้มั้ย?”
“ลองจับมันดูสิ มันต้องการคุณมากเลยตอนนี้...”
“นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกของคุณแน่ ๆ ใช่ไหม?”
“อ๊ะ อ๊ะ ใช่สิคะ ฉันยังไงเคย... แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไร้ประสบการณ์ขนาดนั้นนะ”
“ว่าแต่... คุณชื่ออะไรนะ... อ๊า” พิชญ์ถามออกมาอย่างไม่ทันได้ยั้งคิด ในหัวสมองยังคงตีกันเรื่องที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อเธอ
“ตั้งแต่เจอกันจนตอนนี้... ฉันยังไม่รู้เลยว่าคุณชื่ออะไร”
“ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกค่ะ... อื้อ... เพราะเรา...อ๊ะ... คงไม่ได้เจอกันอีกอยู่แล้ว”
“คุณไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าผมเป็นใคร...”
“ฉันจำเป็นต้องรู้ด้วยเหรอคะ?” เธอเอ่ยขึ้นพลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “ฉันก็แค่อยาก... เอากับคุณ... วันนี้... ตอนนี้... วันอื่นก็คงไม่จำเป็นหรอกค่ะ”
“อ๊ะ อ๊ะ เสียว เสียวมาก”
“อ๊ะ เข้ามา...เข้ามาในตัวฉัน”
“หึ! คุณแน่ใจแล้วใช่ไหม?” เสียงของเขาแฝงไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ถ้าผมเริ่มแล้ว ผมจะไม่หยุดนะ”
“อ๊ะ อ๊ะ แรงอีก เอาแรงกว่านี้” เสียงหอบกระเส่าของร่างเล็กเต็มไปด้วยอารมณ์แห่งความปรารถนา
“พิชญ์ ผมชื่อพิชญ์ เรียกชื่อผม” คนตัวใหญ่สั่งการคนใต้ร่าง
“มะ ไม่จำเป็น”
“คุ คุณหยุดทำไม”
“เรียกชื่อผม แล้วผมจะทำตามที่คุณขอ”
“อ๊ะ อ๊ะ พิชญ์ อื้ออ เอาแรงกว่านี้ เร็วอีก” คนตัวใหญ่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกพอใจ เขาทำตามคำพูดด้วยการรัวสะโพกให้เร็วอีกครั้งจนความวาบไหวทะยานไปถึงจุดสูงสุดก่อนหยาดน้ำใสของไฟราคะจะถูกปลดปล่อยออกมา
“อ๊า...มันดีแบบนี้นี่เอง”
“บ้าไปแล้ว! นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย” เธอพึมพำกับตัวเองขณะที่พยายามใส่ผ้าอย่างลนลาน จับยัดเข้าตัวแบบไม่คิดอะไรมาก ความรู้สึกที่วิ่งวุ่นอยู่ในหัวระคนระหว่างความพอใจและความสับสน มือเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่ติดกระดุม
“นอนอ้าขาให้ไอ้ผู้ชายเฮงซวยเนี่ยนะ ยัยพระพาย!”
“เธอหายไปไหนล่ะ?” พิชญ์ถามเสียงเรียบ
“กลับไปแล้วครับ เมื่อเช้า” ลูกน้องตอบแบบเรียบ ๆ ตามหน้าที่ พิชญ์กระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแต่ในหัวพิชญ์กลับวุ่นวายไปหมด
“หึ!ยัยตัวแสบ นี่คิดจะทิ้งกันไปดื้อ ๆ แบบนี้จริงเหรอ”
“ไปสืบเรื่องผู้หญิงคนนั้นมา”
“อะไรนะเรียนที่เดียวกับฉัน อย่าบอกนะว่ายัยนั้นคือ...ยัยพระพายเฉิ่ม ๆ คนนั้น และเธอเป็นแอคเค่องั้นเหรอ?น่าสนใจแฮะ”